เปิดโผสินค้าส่งออกปี 56 อัญมณี-ของตกแต่ง-ยังเดี้ยง อุตฯอาหารกุ้ง-ไก่ โตได้แต่ไม่ดี
|
|
29 ธ.ค. 2555 เวลา 12:42:55 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ความเห็นของผู้ประกอบการกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ โดยนายสมชาย พรจินดารักษ์ นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย ไม่ต่างจากคาดการณ์ของกระทรวงพาณิชย์ กล่าวคือ ยังประเมินว่าสถานการณ์การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมีแนวโน้มที่จะทรงตัว 0% เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และที่สำคัญไทยยังเสี่ยงที่จะสูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขันจากการปรับขึ้นค่าแรงงาน 300 บาท ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้สินค้ากลุ่มเครื่องประดับเงินยังถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ในการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐ
ส่วนการให้ความช่วยเหลือเรื่องการลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าที่จะเข้ามาจัดแสดงในงานยังไม่ชัดเจน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจจะทำให้ผู้ส่งออกพิจารณาย้ายฐานการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนอื่นได้ เช่น เวียดนาม กัมพูชา หรือพม่า เป็นต้น
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และประธานกิตติมศักดิ์สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน เปิดเผยว่า ภาพรวมการสั่งซื้อทั้งปียังน้อย
ส่วนหนึ่งเพราะสินค้าใหม่น้อยลง เพราะผู้ผลิตส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมตั้งแต่ช่วงปลายปี 2554 คาดว่าทั้งปีการส่งออกจะขยายตัวเพียงร้อยละ 3 มีมูลค่าตลาดประมาณ 90,000 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 5 เนื่องจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ เศรษฐกิจยุโรปที่ชะลอตัว และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ
ทั้งนี้ ตลาดส่งออกอันดับหลักอย่างสหรัฐส่งออกลดลงถึงร้อยละ 10 รองลงมาตลาดญี่ปุ่นการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-11 และตลาดยุโรปการส่งออกลดลงร้อยละ 2-3 ขณะที่การส่งออกไปอาเซียน และจีนยังอยู่ในเกณฑ์ดี ขยายตัวร้อยละ 10 สำหรับยอดขายปี 2556 คาดว่าจะขยายตัวได้ไม่เกินร้อยละ 5 เพราะมีปัจจัยลบจากการปรับค่าแรง 300 บาท
ขณะที่ นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ปี 2556 ไทยมีโอกาสจะส่งออกข้าวได้ใกล้เคียงกับปีนี้ ที่คาดว่าจะส่งออกได้ราว 6-7 ล้านตันได้ ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะบริหารจัดการสต๊อกที่กุมไว้อย่างไร เพราะขณะนี้รัฐบาลถือครองไว้ถึงกว่า 12 ล้านตัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หากระบายสต๊อกข้าวนี้ออกมาอาจจะเป็นแรงกัดต่อราคาข้าว ทำให้ลดต่ำลงได้ แต่หากไม่ระบายออกมาก็จะเป็นภาระในการเก็บรักษาข้าวได้
นายผณิศวร ชำนาญเวช นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า ผลจากปัญหากุ้งตายด่วน (EMS) ทำให้ปริมาณการส่งออกกุ้งปีนี้อาจจะปรับลดลง 12% หรือเหลือเพียง 3.5 แสนตัน จากที่คาดการณ์ว่าจะส่งออกได้ 3.7-3.8 แสนตัน และคาดการณ์ว่าแนวโน้มการส่งออกกุ้งในปี 2556 จะยังคงปรับลดลงต่อเนื่องในช่วง 3-4 เดือนแรก และเมื่อราคากุ้งลดลง
หลังจากนั้นปัญหาการเลี้ยงก็จะทยอยลดลงตามสถานการณ์การส่งออกก็จะปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ โดยปัจจัยเสี่ยงของการส่งออกกุ้งขณะนี้มาจาก 2 ด้าน คือต้นทุนการซื้อวัตถุดิบกุ้งปรับสูงขึ้น จากปัญหาการตายด่วน ทำให้ราคากุ้งเพิ่มขึ้น เช่น กุ้งขนาด 50 ตัวต่อกิโลกรัม ปรับ
เพิ่มขึ้น 130 เป็น 170 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาส่งออกไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ เพราะประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐยังประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจภายใน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าสหรัฐเป็นตลาดส่งออกกุ้งสัดส่วน 40% ของไทย แต่การส่งออกในช่วง 10 เดือนแรก ยอดส่งออกไปตลาดนี้ปรับลดลงแล้ว 30%
นายแพทย์อนันต์ ศิริมงคลเกษม นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวว่า คาดการณ์ว่าตัวเลขการส่งออกเนื้อไก่สิ้นปี 2555 น่าจะประมาณ 520,000 ตัน คาดว่าในปี 2556 ยอดการส่งออกน่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 7-8% โดยปัจจัยหลักมาจากการที่ตลาดหลักอย่างอียูเปิดให้นำเข้าไก่สดได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2555 ได้มีประเทศผู้นำเข้ารายอื่นเริ่มทยอยเปิดตลาดให้มีการนำเข้าไก่สดได้ ถือเป็นแนวโน้มที่ดี เพราะเป็นเวลาเกือบ 8 ปีมาแล้ว หลังจากเกิดไข้หวัดนกตั้งแต่ปี 2547 ที่ประเทศไทยไม่สามารถส่งออกไก่สดได้ โดยเฉพาะตลาดหลัก
อย่างญี่ปุ่นคาดว่าจะสามารถเปิดตลาดให้ไก่สดได้ประมาณช่วงกลางปี 2556 โดยคาดว่าตัวเลขการส่งออกไก่ในตลาดญี่ปุ่นน่าจะโตได้ประมาณ 10%
| จากคุณ |
:
Wild Rabbit  
|
| เขียนเมื่อ |
:
29 ธ.ค. 55 22:00:46
|
|
|
|
