ความคิดเห็นที่ 1 ส่งครับ  จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับระดับ EQ ของเค้าคนนั้น ... = = จากคุณ : หน้าม้าคุง ... ฮี้ฮี้ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 04:30:41

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับเราเป็นมาก ทำให้เหมือนต้องลองใจใครอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้แน่ใจ จากคุณ : แม่ดิน (pumpeem) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 06:35:17

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าพื้นฐานเขาเป็นคนดีครับ ครอบครัวต้องดีแน่นอนครับ  แต่ของอย่างนี้มันต้องเป็น จขกท. แหล่ะครับช่วยคัดท้าย ช่วยให้เขาเชื่อว่าครอบครัวคือสถาบันที่ที่เขาพึ่งพาอาศัยได้ ไว้ใจได้ และสามารถเป็นที่ตายเขาได้อย่างตาหลับ ไม่ใช่นั่งดูและช่วยซ้ำเติมเขา เขาทำมาหาได้ ก็ช่วยเขาเก็บออม หมั่นให้กำลังใจเขา  ไม่ใช่เป็นคนเก็บเงินไม่อยู่หรือเอาปรนเปรอฝั่งเราจนทำให้เขาเชื่อว่าเงินเทื่านั้นซื้อทุกอย่างได้  ผมเห็นหลายครอบครัวเป็นอย่างนี้ครับ  พอมีเงินชีวิตครอบครัวสุขสงบ ร่มเย็น แต่พอไม่มีเงิน ทะเลาะเบาะไว้ ทุ่มเถียงกัน และที่สำคัญทุกคนไม่มีใครผิดเลย ทุกคนถูกหมด ยกเว้นคนหาเงิน ผิดคนเดียว  ไม่เคยคิดจะหาทางช่วยกันหาเงิน ครอบครัวอย่างนี้ก็มีให้เห็นเยอะครับ ตอนรักกันเซ็กส์สำคัญ แต่ตอนป็นครอบครัวแล้ว เพื่อนตายสำคัญที่สุดครับ เพื่อนที่เสียสละ  เพื่อนที่คอยให้กำลังใจ เพื่อนที่คอยให้อภัย  ครอบครัวของคู่ครอบของท่านต้องดูด้วยครับอย่าเอียงไปทางใดทางหนึ่ง ต่างก็มีพ่อแม่พี่น้องด้วยกันมาทั้งนั้น ดังนั้น พ่อแม่พี่น้องของอีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องรักและช่วยเหลือให้เหมือนพี่น้องของเราด้วยครับ  ชีวิตครอบครัวจึงจะไปรอด ที่สำคัญหูต้องหนัก ใจต้องเย็น  ไตร่ตรองหลาย ๆ รอบครับก่อนจะทำอะไรลงไป คิดทุกคำก่อนพูด แต่ไม่ต้องพูดทุกคำที่ท่านคิดครับ จากคุณ : กระจอกจัง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 06:53:49

ความคิดเห็นที่ 4 ว่าไปตามเันื้อผ้า อย่าโกรธกันนะ คนที่มาจากครอบครัวที่หย่าร้าง จะไม่ค่อยเข้าใจการอดทนเพื่อประคับประคองชีวิตคู่ แต่ ข้อดีสำหรับคู่ของคุณ คือ คุณรู้ความเป็นไปได้ และจะหาทางแก้ไขต่อไป จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 07:19:33

ความคิดเห็นที่ 5 มีผลกับชีวิตคู่นะครับ สุขภาพจิตยังไงก็ไม่ดีเท่าคนครอบครัวสมบูณร์ จากคุณ : aa เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 08:15:58 A:58.11.149.6 X: TicketID:274848

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องอดีต ย่อมส่งผลถึงปัจจุบัน เรื่องปัจจุบัน ก็ส่งผลต่อถึงอนาคต การรู้อดีต เหมือนการรู้ประวัติศาสตร์ อะไรที่ไม่ถูก ก็แก้ไขให้ถูก ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย กรณีของคุณ สิ่งแรกคือ คุณต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในตัวของคุณเองก่อนค่ะ คุณจะเป็นคนเดียวที่สามารถรื้อปมตรงนั้นได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นเหมือนกัน เช่น สิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือความเป็นตัวตนของเขา .... ถ้าเขายึดมั่นกับเงินมากจนถึงมากที่สุด คุณก็ต้องแสดงให้เห็นว่า เงินสำคัญจริง แต่ไม่ใช่สำคัญที่สุด และอะไรแหละที่สำคัญที่สุด การจะทำให้ใครสักคนมีความคิดสอดคล้องกับเรา บางครั้งต้องใช้เวลาค่ะ และถ้าการใช้เวลา อาจจะสายเกินไป คุณอาจจะใช้ชีวิตของบุคคลอื่น เป็นตัวอย่างเพื่อการเรียนรู้ได้นะคะ เช่น คุณอาจจะยกตัวอย่างของบุคคลที่ประสบผลสำเร็จ ในด้านการงาน การเงิน แต่กลับพบว่า เขาไม่ได้ประสบผลสำเร็จเลย เพราะต้องมาจากไปก่อนวัย หรือไม่มีโอกาสเห็นหน้าภรรยา หรือลูกที่กำลังเติบโต จากคุณ : บีพี เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 08:27:10

ความคิดเห็นที่ 7 ขออนุญาตเห็นต่างจากคนอื่น เราเองมาจากครอบครัวที่จะเรียกว่าแตกแยกหรือเปล่าไม่รู้ แต่ไม่เคยมีพ่อ แม่ก็ต้องเอาไปจ้างเค้าเลี้ยง เดือนหนึ่งมาเยี่ยมครั้งหนึ่ง เหมือนถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว. คนเลี้ยงก็เลี้ยงเหมือนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง มีข้่าวให้กินมีที่ให้นอน ทั้งที่แม่จ่ายค่าจ้างให้รายเดือน แต่ลับหลัง แม่ไม่รู้หรอกว่าลูกอยู่ในสภาพอย่างไร พอแม่มาเยี่ยมก็ทำดีกับเราเหมือนรักเรา ขู่ว่าถ้าฟ้องแม่จะตี เราอยู่ในสถาพนั้นจน10ขวบ จึงได้อยู่กับแม่ เรากลับคิดว่าตอไปวันหน้าถ้าเรามีครอบครัว เราจะดูแลครอบครัวให้อบอุ่น เอาความรู้สึกที่เคยได้รับมาเตือนตัวเอง   เป็นรื่องปกติของทุกครอบครัวอาจมีขัดแย้งกันบ้าง แต่ถ้ามีความรักให้กันรู้จักอภัยและขอโทษต่อกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน พูดคุยกันด้วยเหตุและผล ครอบครัวก็เป็นสุขได้ เรื่องในอดีตจึงเป็นแค่บทเรียนหนึ่งเท่านั้น จากคุณ : นางในวรรณคดี เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 09:09:33

ความคิดเห็นที่ 8        มีผลค่ะ เพราะจะโตมาแบบไม่เคยเห็นความสำคัญของครอบครัว!!!!          ความรักความเข้าใจเขาของคุณจะช่วยเขาได้ค่ะ          เท่าที่อ่านมา เขาของคุณ เป็นคนดีทีเดียวค่ะ มีพื้นฐานเป็นคนดีอยู่แล้ว                เขาแก้ไขอดีต ของครอบครัวเขาไม่ได้ แต่ถ้าคุณเข้าใจเขา รักเขา             ความเข้าใจเขา รักเขา คือปัจจุบัน และอนาคตของคุณทั้งคู่ค่ะ             ขอเอาใจช่วยคุณนะคะ ความรักความเข้าใจ คือแก่นแท้ของครอบครัวที่มีความสุขค่ะ           ปล. คุณลองอ่านนิยายเรื่ิอง"ปูนปิดทอง"ของคุณกฤษณา อโศกสิน สิคะ ดีมากๆ จากคุณ : a tt เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 09:22:06

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าก็มีผลบ้างนะ. แต่ก็ขึ้นกับคนด้วยว่า.  เอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดขึ้นอีก. อย่าง คห 7. ว่าไว้.    หรือบางคนอาจปล่อยตามยถากรรม    เพราะเคยเจอมาแล้วเห็นเป็นเรื่องปกติ.   คงเป็นข้อสรุปที่ตายตัวไม่ได้หรอก อย่างที่เขาคิด. เงินจะช่วยทำให้มีความสบาย.  ก็ไม่ผิด.    แล้วแต่ว่าแต่ละคนเจออะไรมา.   ย่อมนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นแง่คิด จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 09:39:19

ความคิดเห็นที่ 10 ผมขอค้านครับ ... ผมก็มาจากครอบครัวแตกแยกเหมือนกัน ... ผมเริ่มไม่เห็นแม่อยู่ในบ้านตั้งแต่ ป.2 .... มาเจอแม่อีกครั้งตอน ป.6 ทุกวันนี้ผมแต่งงานมีครอบครัวอย่างถูกต้องตามประเพณีทุกอย่างตั้งปต่ปี 2537 มีบุตรหญิง 1 คนอายุ 11 ปี รวมการใช้ชีวิตคู่ของผมเกือบ ๆ 20 ปีครับ ... จาการที่ผมเติบโตมาในครอบครัวแบบนั้น กลับทำให้ผมตั้งปณิธานไว้ในใจว่า .. ผมจะไม่ทำให้ครอบครัวของผมเป็นแบบนั้นครับ ... ตลอดการใช้ชีวิตคู่ของผมระหว่างทางก็มีปัญหาบ้างจากเรื่อง เงินไม่พอใช้ , ย้ายที่ทำงานบ่อย , ตกงานเป็นระยะ ๆ แต่ผมมีคู่ชีวิตที่ดีมีความอดทนสูง เราจึงช่วยกันประครองจนผานมาได้ทุกสถานการณ์... ผมค่อนข้างมั่นใจว่าครอบครัวจะแตกแยกหรือคงอยู่ สิ่งสำคัญคือความยึดมั่นถือมั่น ในตัวเองกันทั้งนั้น ... ผู้ชายก็คิดว่าแน่ , ผู้หญิงบางคนที่มีความรุ็ ก็คิดว่าตัวเองก็แน่เช่นกัน สุดท้ายไม่มีใครยอมใครครอบครัวก็ต้องแตกแยกไปในที่สุด ... แม่ผมให้ข้อคิดกับผมในวันแต่งงานว่า ... ถ้าปิดหู , ปืดตา กันเสียบ้างก็จะเป็ฯเรื่องที่ดี ผมก็นำมาปรับใช้แล้วก็พบว่าเป็นเรื่องจริงอย่างมาก คนที่ฉลาดเขาก็ควรจะรู้ว่าว่าไหนควรฉลาดและเวลาไหนควรจะโง่ครับ ... สรุปว่าครอบครัวจะอยู่ได้ขึ้นอยู่กับคนสองคนที่แต่งงานกันแล้วมีความหนักแน่น จริงใจในการแก้ปัญหา ..... ส่วนตัวแปรที่จะทำให้ครอบครัวของเราแตกแยกนั้นมีสาเหตุเป็นร้อยประการ เพื่อนฝูง , ญาติของแต่ละฝ่าย เป็นตัวแปรชั้นดีที่เดียวที่ทำให้เกิดปัญหา ... ปีนี้ผมอายุ 43 แล้ว ยังไม่เคยเห็นครอบครัวไหนไม่มีปัญหานะครับ เพียงแต่ว่าเขาจะแก้ปัญหาอย่างไรเท่านั้นเองและเขาจะเล่าให้เราฟังหรือเปล่าเท่านั้นครับ .. บางครอบครัวอาจมีคนใดคนหนึ่งหลงทางไปบ้าง แต่ถ้ามีพื้นฐานของการแก้ปัญหาอย่างจริงใจ ก็แก้ไขได้ในทุกเรื่องครับ ผมเองก้เคยหลงทางไปบ้าง แต่ภรรยาผมก็กระตุกผมกลับมาด้วยความดีและความอดทน .. สรุปสุดท้ายว่า อยู่ที่คนสองคนว่าจะจริงใจในการแก้ปัญหาหรือเปล่า อวดดื้อถือดัต่อกันหรือเปล่าเท่านั้นเองครับและก็ปรับตัวในเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรู้ทัน ไม่มีสูตรสำเร็จครับ ... แต่ผมมีความเชื่ออยู่ย่างหนึ่งว่าถ้าทุกฝ่ายจริงใจแก้ปัญหา ทุกอย่างก็จะไปได้ดีครับ .... ถ้าเราแก้อยู่ฝ่ายเดียว อีกฝ่ายไม่มีใจ ก็เปล่าประโยชน์ครับ ... ไม่เกี่ยวกับว่าคน ๆ นั้นมาจากครอบครัวที่แตกยกหรือไม่ .... แต่ถ้าครอบครัวนั้นประกอบอาชีพที่ไม่สุจริตทั้งบ้านหรือเป็นโจรทั้งบ้าน แบบนั้นเกี่ยวข้องแน่ ๆ ครับ ... จากคุณ : ปีกไก่ย่างทอด เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 10:29:52 A:223.207.123.200 X: TicketID:335213

ความคิดเห็นที่ 11 พูดยาก  เพราะอดีตของเขาทำให้เป็นตัวเขาในปัจจุบัน  การจะเปลี่ยนความคิดมันก็ยาก  เนื่องจากต้นแบบในวัยเด็กของเขามันไม่ดี  ต้องดูว่าต้นแบบเขานั้นเป็นใคร  ถ้าเขามีต้นแบบที่ดี  เขาก็ย่อมมีความคิดเกี่ยวกับครอบครัวที่ดี   เรื่องแบบนี้คุณเท่านั้นที่จะตอบได้นะ  เพราะมันมองได้หลายแง่   บางคนครอบครัวแตกแยก  ดีก็มี  เพราะรักดี บางคนครอบครัวดี   แต่ทำแย่ก็มี  เพราะติดเพื่อน เรียกว่าคบเพื่อนอย่างไรก็เป็นคนเช่นนั้น   ถ้ามาจากครอบครัวที่ดีก็ย่อมมีภูมิคุ้มกัน แต่ถ้ามาจากครอบครัวที่ไม่ดีภูมิคุ้มกันมันก็ไม่มี   แต่ถ้าเขารักดี  มันก็ไม่แน่  อาจจะดีก็ได้แย่ก็ได้ จากคุณ : tripper 95 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 10:33:42

ความคิดเห็นที่ 12 กลับมาอ่านแต่ละความเห็นที่วัยเด็กมีสภาพคล้าย ๆ กับผมแล้วผมว่า แต่ละท่านมีความตั้งใจว่าจะไม่ให้เหตุการณ์อย่างนั้นเกิดซ้ำในตรอบครัวของตน ... ซึ่งก็สอดคล้องกับสิ่งทีีผมตั้งปณิธานเอาไว้ ... ดังนั้นผมเชื่อว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไรนะครับถ้าจะแต่งงานกับคนทีมีอดีตเป็นเด็กครอบครัวแตกแยก ... อยู่ที่คนสองคนจะช่วยกันประคองครับ .. จากคุณ : ปีกไก่ย่างทอด เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 10:35:36 A:223.207.123.200 X: TicketID:335213

ความคิดเห็นที่ 13 คุณน่าจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากเขาและเป็นคนมาเติมเต็มให้เขานะคะ เขาถึงคลิ้กคุณ ทฤษฏีพฤติกรรมศาสตร์ บอกว่า พฤติกรรมของมนุษย์ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของมนุษย์คนอื่นๆที่แสดงออกต่อเขา  ถ้าคุณรักเขาก็เป็นอย่างที่คุณเป็นมาซึ่งมันโอเคกับเขา ถ้ากังวลก็เพียงแต่ระวังแต่อย่าระแวง เชื่อมั่นในตัวเขาและตัวคุณ จากคุณ : mangpongja เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 10:57:17

ความคิดเห็นที่ 14 สำหรับตัวผมเงินจะตามมาหลังจากการทำงานอย่างหนัก ... ผมไม่เห็นว่าเงินสำคัญ แต่ผมเห็นว่างานที่มั่นคงจะสำคัญที่สุด ... ผมเริ่มทำงานประจำกินค่าแรง 137/วัน ตังแต่ปี 37 พอมาปี 38 ผมได้การสนับสนุนจากผู้ใหญ่เพียงชั่วข้ามคืนจาก Operator กลายมาเป็น Leader และ Supervisor ภายในปีเดียวแบบกระโดดข้ามห้วย .... ทำให้ครอบครัวผมมีความเป็นอยู่ดีขึ้นมาก ยิ่งเป็นการตอกย้ำความคิดของผมว่า "ถ้างานมั่นคง ครอบครัวก็มั่นคง" ดังนั้นกลารที่คนรักของท่านเขาพยายามหาเงิน เป็นเพราะเขามีอดีตที่เจ็บปวดกับเรื่องนี้ เขาไม่อยากกลับไปเป็นแบบเก่าอีกจึงเป็นอย่างที่ท่านเห็น ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าวีนหนึ่งเขารู้สึกว่าปลอดภัยจากเรื่องดังกล่าวแล้วเขาก็จะหยุดเองครอบ ... ผมว่าผู้ชายหลาย ๆ คนที่มีครอบครัวแล้ว ... ให้ความสำคัญกับ เรื่องงานและเงินมากกว่าอย่างอื่นนะครับ พอเรื่องดังกล่าวดี ก็จะมีปัญหาใหม่มาให้แก้ครับ ... จะเป็นอย่างนี้กับทุกคนก็ว่าได้ครับ ..... จากคุณ : ปีกไก่ย่างทอด เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 10:57:19 A:223.207.123.200 X: TicketID:335213

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับเรา ไม่มีผลค่ะ เราก็มาจากครอบครัวที่แตกแยก คนที่เราชอบก้มาจากครอบครัวที่พ่อเจ้าชู้ เอาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน ทำร้ายร่างกายเมียหลวงเพื่อโชว์เมียน้อย แต่สำหรับเรากับคนที่เราชอบ คบกันมา 10 ปี เค้าก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายเราเลยค่ะ ส่วนกับคนที่เราจะต้องถูกบังคับให้แต่งงาน เค้าก็มาจากครอบครัวที่หย่าร้างกัน ก็ไม่เห็นจะมีปัญหา แถมออกจะแนนเซ็นซิทีฟ อีกต่างหาก จากคุณ : No One Love เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 12:39:30

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่จำเป็นเสมอไปค่ะ   ขึ้นกับนิสัยที่เค้าแสดงออกมามากกว่า บางคนได้ตัวอย่างที่พ่อกับแม่ ทำอะไรไม่ดีๆ และไม่คิดทำตามก็มี บางคนพ่อแม่เลี้ยงดี  แต่ทำตัวไม่ดี ก็มีเหมือนกัน พื้นฐานครอบครัวมีส่วน  แต่ไม่ทั้งหมดนะคะ จากคุณ : คุณคนที่ใส่เสื้อสีชมพูนั่นน่ะ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 13:15:18

ความคิดเห็นที่ 17 อยู่ที่คนครับ เหตุการณ์เดีนวกัน บางคนมาแปลงเป็นแรงส่ง บางคนก็มาแปลงเป็นแรงฉุด คุณต้องสังเกตุเองครับ. คนบ้านแตก ดีก็ดีใจหาย ร้ายก็ร้ายน่าดู จากคุณ : เราชื่อ มารบูรพา เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 14:04:48

ความคิดเห็นที่ 18 แฟน จขกท เหมือนแฟนเราเลย ผิดกันแต่ว่าเค้าเชื่อมั่นในตัวเราว่ายังไงเราก็รักเค้า และเค้าก็รักและสัญญาจะดูแลเราตลอดชีวิตของเค้า อยากให้ จขกท อย่าคิดไปล่วงหน้าเลย มันไม่แฟร์กับแฟนคุณเท่าไหร่ ถ้าเค้ารู้คงน้อยใจอ่ะ ปล่อยให้หัวใจนำทาง เอาสมองเก็บไว้คิดเรื่องงาน (เครดิต 30ยังแจ๋ว) จากคุณ : น้องเหมียวสีสวาด เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 14:50:57

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เสมอไป แล้วแต่ตัวบุคคล คนนั้นมากกว่า ว่าจะเก็บมาเป็นปมด้อยหรือปมในใจหรือเปล่า ไม่งั้นถ้าคนที่มาจากพ่อแม่หย่าร้าง มีหรือปัญหาก็ต้องเป็นหมดทุกคน เราว่าแล้วแต่ตัวบุคคลมากกว่าค่ะ จากคุณ : มัตสึโกะ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 16:12:58

ความคิดเห็นที่ 20 คิดว่ามีผล แต่จะมากหรือน้อยอยู่ที่ตัวบุคคล จากคุณ : Funnyfamily เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 16:37:05

ความคิดเห็นที่ 21 มีผลมาก เพราะจะทำให้ไม่อดทนในการประคองชีวิตคู่ครับ จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 16:43:08

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่จริงค่ะ มีหรือไม่มีขึ้นอยู่กับบุคคลค่ะ แฟนเราพ่อแม่เลิกกัน เค้าเองจำหน้าพ่อยังไม่ได้เลยค่ะ เค้ารักเราเป็นคนดีมาก ไม่กินเหล้าไม่เจ้าชู้ไม่เที่ยวติดบ้านรักแม่มาก ไม่มีความจำเป็นที่เกิดมาบ้านแตกแล้วจะส่งผลให้ครอบครัวล้มเหลวค่ะ ตัวคุณน่าตะรู้จักคนรักของคุณมากที่สุด คุณทราบดีที่สุดว่าเค้าจะเป็นคนอย่างไร ย้ำนะคะ เรื้องนี้เกี่ยวกับที่ตัวบุคคลโดยเฉพาะเลย จากคุณ : Kodou เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 17:44:39

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่เสมอไปหรอกค่ะ.... ขึ้นอยู่ว่ามีฝ่ายนึงจะหนุนนำไปในทิศทางไหนมากกว่า... คือคนรักกัน ก็ต้องเกื้อกูลกันไปในทางที่ดีอ่ะค่ะ คนที่มีพ่อแม่ พร้อมๆหน้ากัน  เป็โรคจิตก็เยอะนะคะ ชอบทำร้ายร่างกาย หยาบคาย ฯลฯ มีถมไป จากคุณ : nAHMLeMoN เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:05:32

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณทุก ๆ คนนะคะที่เข้ามาช่วยตอบ คงเป็นอย่างที่หลาย ๆ ความเห็นบอกว่า บางคนถึงจะเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าเรียนรู้ข้อผิดพลาด แล้วนำมาแก้ไข ก็คงจะมีครอบครัวที่ดีได้ เราก็คาดหวังว่าเขาจะเป็นแบบนั้นค่ะ บางทีเราก็รู้สึกว่าเขาค่อนข้างมีปัญหาเวลาที่เราทะเลาะกัน หรือเห็นไม่ตรงกัน เหมือนกับว่าเขาไม่รู้วิธีแก้ปัญหาเวลาที่ทะเลาะกัน และจะหงุดหงิดมาก ๆ เวลาที่เราพูด หรือถามอะไรที่ทำให้เขารู้สึกว่ามันอาจจะทำให้ทะเลาะกันได้ ไม่ใช่ว่าการแก้ไขปัญหา คือต้องตามใจเรา ง้อเรา หรือเราถูกเสมอแบบนั้นนะคะ แต่บางครั้งเราก็คิดว่าการที่เมื่อเห็นไม่ตรงกัน หรือเกิดการทะเลาะกัน ก็ควรพูดกันให้เข้าใจกันมากกว่า แต่สุดท้ายเกือบทุกครั้งที่ทะเลาะกันเราก็ต้องเป็นฝ่ายใจเย็นลงก่อนทุกทีค่ะ บางทีปัญหานี้อาจจะเป็นลักษณะนิสัยส่วนบุคคลมากกว่า อาจจะไม่เกิดจากพื้นฐานครอบครัวเขาก็ได้ค่ะ แต่ที่เรากลัวคือความคิดที่เขาไม่คิดว่าครอบครัวเป็นที่พึ่งพิงจิตใจสำหรับเขาได้ มันจะทำให้เกิดปัญหาน่ะค่ะ จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:42:44 A:110.169.254.44 X: TicketID:384706

ความคิดเห็นที่ 25 แค่คุณเริ่มถามคนอื่นผมว่าคุณควรเลิกกับเขาแล้ว จากคุณ : อย่ารู้เลยว่าฉันเป็นใคร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 03:31:36

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นไม่เหมือนความเห็นอื่นนะครับ พ่อผมเกิดมาในครอบครัวที่เรียกว่า สะบั้นเลยก็ว่าได้ - ย่าตรอมใจตายเพราะปู่มีเมียใหม่ - ปู่แจ้งตำรวจจับพ่อ ข้อหา พรากผู้เยาว์ แต่นั่นคือน้องสาวเพื่อให้น้องได้เรียน เท่าที่ผมรู้สึกได้ พ่อผมไม่เคยส่อแววของเด็กบ้านแตกให้เห็นเลย ถามแม่ แม่ก็บอกว่า พ่อไม่เคยโกรธปู่เลยที่กระทำหลายอย่างข้างต้น แค่นี้ก็น่าจะพอสำหรับผมที่คิดว่า .. บ้านแตก หรือ ครอบครัวมีปัญหา ไม่ใช่กรรมพันธุ์ที่จะส่งผลรุ่นต่อรุ่นครับ เจ๋อ จากคุณ : เจ๋อหน้าจอ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 10:48:21

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่าปัญหาที่คุณเจอเป็นปัญหาปกติที่คู่รักต้องเจอครับ ไม่เกี่ยวหรอกว่าเป็นเพราะเค้ามาจากครอบครัวมีปัญหา จากคุณ : WalkingTrail เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 22:14:20