ความคิดเห็นที่ 1 C-802 for Thai frigates   Chinese experts will assist the Royal Thai Navy in upgrading 4 Chinese-built Chao Phraya class frigates with the YJ-82 (export designation C-802) anti ship missiles, a Chinese official said friday. The Thai frigates carry eight C-801 SSM, two 100 mm/56 DP (1 in last two), foul dual 37 mm AA, two RBU-1200 ASW rockets. The Thai Navy will be replaced the C-801 with C-802 SSM with in next 2 years. The upgrade program also includes installation of new fire-control systems, air/surface search radars, long-range air search radars, electronic warfare systems and electronic equipment. A military source said that the Thai Navy will sign a $ 70 million contract with as soon as the Thai cabinet approves the navy development plans. The source also said that the Thai Navy wants to improve underwater warfare and air warfare combat system performance. There have been unconfirmed reports that MK 32 Mod 5 (2 triple) torpedo tubes and a launched variant of the LY-60 SAM would be fitted on the frigates if the funds are available. คุณ FatBoy เจ้าของกระทู้ที่ thaifighterclub บอกว่ามาจาก www.chinadaily.com แต่ผมตามไปเพื่อจะหา link จริง ๆ กลับพบว่ามันกลายเป็นเว็บสมัครงาน????? เลยไม่รู้ว่าต้นตอของข่าวมาจากไหน จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 5 เม.ย. 50 20:26:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รู้จักเรือในชุดเรือหลวงเจ้าพระยา เรือในชุดเรือหลวงเจ้าพระยาประกอบไปด้วยเรือ 4 ลำคือ เรือหลวงเจ้าพระยา หมายเลข 455 เรือหลวงบางปะกง หมายเลข 456 เรือหลวงกระบุรี หมายเลข 457 เรือหลวงสายบุรี หมายเลข 458 ในราคาประมาณลำละ 2,000 ล้านบาท ราคาของเรือในชุดนี้ทั้ง 4 ลำซื้อเรือฟริเกตยุโรปได้เพียงลำเดียวเท่านั้น แต่ทั้งนี้ เรือในชุดนี้ก็มาช่วยเพิ่มกำลังรบและจำนวนเรือให้ทร.ไทยซึ่งในสมัยนั้น (2534) มีแต่เรือฟริเกตติดปืนและเรือโจมตีเร็วติดอาวุธปล่อยนำวิถีเท่านั้น เรือหลวงเจ้าพระยาติดตั้งอาวุธดังนี้ - ปืนเรือขนาด 100 ม.ม. แท่นคู่ 2 กระบอก (ในร.ล.กระบุรีและสายบุรีนั้นติดตั้งเพียง 1 กระบอก โดยด้านหลังเปลี่ยนเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์แทน ซึ่งเป็นเรือลำแรกของราชนาวีไทยที่สามารถนำฮ.มาลงจอดได้) - อาวุธปล่อยนำวิถี C-801 จำนวน 8 นัด ระยะยิง 50 กม. - ปืนกล 37 ม.ม. แท่นคู่ 2 กระบอก - จราดปราบเรือดำน้ำ RBU-1200 จำนวน  2 แท่น [ภาพ เรือชั้นนเรศวร (ด้านหน้า) และเรือชั้นเจ้าพระยา] จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 5 เม.ย. 50 21:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คราวนี้ตามเนื้อข่าวกล่าวว่า ราชนาวีไทยจะเปลี่ยนอวป. C-801 เป็น C-802 รุ่นที่ใหม่กว่า พร้อมทั้งปรับปรุง fire control system (ระบบควบคุมการยิงอาวุธ) air/surface search radars, (เรด้าห์ตรวจการณ์ภาคอากาศและผิวน้ำ) long-range air search radars (เรด้าห์ตรวจการณ์ภาคอากาศระยะไกล), electronic warfare systems (ระบบสงครามอิเล็กทรอนิค) ฯลฯ และถ้ามีงบประมาณก็จะติดตั้งตอร์ปิโดว์และอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู้อากาศ (SAM) แบบ LY-60 ด้วย ตอนนี้ ไปรู้จักกับของแต่ละอย่างกันครับ [ภาพ เรือหลวงเจ้าพระยา] จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 5 เม.ย. 50 21:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อาวุธปล่อยนำวิถี C-802 C-802 เป็นจรวดในตระกูลเดียวกับ C-801 และ C-803 ครับ เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจากระบบเชื้อเพลิงแข็งมาเป็นเครื่องยนต์ Turbojet โดยมีระยะยิงเพิ่มขึ้นเป็น 120 กม. จากเดิม C-801 มีระยะยิงเพียง 50 กม. เท่านั้น ในภูมิภาคอาเซียนนั้นมีกองทัพเรือที่ประจำการด้วย C-802 อีกหนึ่งกองทัพก็คือกองทัพเรือพม่าที่มีเรือขนาดเล็กที่ติด C-802 อยู่จำนวน 5 ลำ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 5 เม.ย. 50 21:23:59 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ LY-60 SAM รุ่นนี้พัฒนามาจากจรวด Aspide ของอิตาลี ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Sparrow ของสหรัฐอีกทีนึงครับ ตัวจรวดสามารถยิงเป้าหมายในระยะกลางและต่ำได้ ต่ำที่สุดประมาณ 30 เมตร ผมว่ายังสูงเกินไปสำหรับจรวดที่จะวิ่งเข้าหาเรือรบของเราที่ปกติจะบินอยู่ในระยะประมาณ 10 เมตร แต่ด้วยระยะยิงที่ไกลประมาณ 18 กม. นั้นทำให้สามารถป้องกัยภัยทางอากาศให้กับเรือได้อย่างดีเยี่ยม โดยสามารถยิงได้ในระยะสูงถึง 12 กม. สูงพอที่จะสอยเครื่องบินรบได้สบาย ๆ ระบบเรด้าห์ของ LY-60 สามารถติดตามเป้าหมายได้ 12 เป้าหมาย และสามารถยิงเป้าหมายได้พร้อมกัน 3 เป้าหมาย นั้นหมายความว่าถ้า Su-30 เข้ามาในระยะ 18 กม. 3 ลำ ตัวระบบก็จะสามารถปล่อยจรวดไปทำลายได้พร้อมกันทั้งสามลำครับ แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 50 03:33:58 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 5 เม.ย. 50 21:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นอกนจากนั้นการปรับปรุงระบบอิเล็กทรอนิคต่าง ๆ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพของเรือดีกว่าในปัจจุบันมากทีเดียว ทั้งนี้ตามเนื้อข่าวบอกว่าโครงการจะใช้งบ 70 ล้านเหรียญและจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 2 ปีนับจากวันที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ (ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้อนุมัติ) ต้องลองตามดูกันต่อไปครับว่าโครงการจะเกิดขึ้นได้จริงไหม และจะเกิดเมื่อไหร่ และอีก 2 ปี จะได้เห็นภาพเรือหลังการปรับปรุงหรือเปล่า ต้องลองตามดูกันครับ สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ [ภาพ เรือหลวงกระบุรี] จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 5 เม.ย. 50 21:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใช้ของจีนก็ดีครับ copy มาเกือบทุกรุ่นแล้วมั๊งเนี่ย 66666 จากคุณ : monjangja - [ 5 เม.ย. 50 21:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โอ้ ขอบพระคุณครับ ไม่ต้องไปหาข่าวสารที่ไหนเลย ว่าแต่ LY-60 นี่ คงไม่ใช่อาวุธที่จีนก็อปมาจากอิตาลีนะครับ จากคุณ : Ontjung - [ 5 เม.ย. 50 22:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลูกเรือดูเยอะจัง อึดอัดแย่เลย เกี่ยวกะเรือรบมั้ยเนี้ยตู~ จากคุณ : elvish346 - [ วันจักรี 01:02:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรียนคุณ Ontjung จีนไม่ได้ก๊อปมาครับ แต่พัฒนาต่อ อิอิอิอิ (ต่างมั๊ยเนี้ย) จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันจักรี 01:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 11 SAM ระยะยิง 18 Km ไม่พอครับ จีนแดงมีSAM copy หลายรุ่นให้เลือก พวกของรัสเซียระยะยิง 5-60 KM ก็มี ถึงจะพอฟัดพอเหวี่ยง เพราะพวก anti ship จากเครื่องบินเดี๋ยวนี้ระยะยิงไกลๆทั้งนั้น จากคุณ : x - [ วันจักรี 02:08:24 A:210.246.64.11 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 12 รูป คห. 3 คุ้น ๆ ว่าผมถ่ายนะ แต่มุมนี้ก็อาจจะมีคนถ่ายหลายคนก็ได้ ผมอยูหน่วยเรือแท้ ๆ ยังไม่รู้เรื่องนี้เลยอ่ะครับ ไม่น่าจะจริงนะ ถ้าความเร่งด่วน น่าจะเป็นชุด รัตนโกสินทร์ กับ ปัตตานี และ จักรีนฤเบศวร์ รวมถึง อากาศนาวีมากกว่านะ (คห. ส่วนตัว) จากคุณ : zedth - [ วันจักรี 10:43:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เข้าใจว่า WIN ใช้ของ thales นะครับ จากคุณ : 10wayswhy - [ วันจักรี 12:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อาวุธก๊อบปี้ของจีน ห่วยค๊าบ สมัยชวลิตเป็งนายก ไปสั่งอาวุธนำวิถีมา เอ...รุ่นอะไรจำไม่ได้ละ จำได้ว่า อะไร 8 ๆ นี่แหล่ะ ต้องยิงทิ้งทุก 6 เดือน ไม่งั้นมันจะเจ๊ง จากคุณ : @==ไข่ดำ==@ - [ วันจักรี 12:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่า คห. ข้างบนเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าครับ ของทุกอย่างในโลกนี้มันมีอายุการใช้งานทั้งสิ้นนะครับ อาวุธก็เหมือนกัน เมื่อใกล้จะครบอายุการใช้งาน ก็ต้องนำมาใช้ครับ เหมือนที่อเมริกา ต้องหาสนามรบ เพื่อที่จะโละอาวุธที่เก็บเอาไว้นั่นแหละครับ และ 6 เดือนอย่างที่คุณว่า ไม่ใช่แล้วล่ะครับ จากคุณ : zedth - [ วันจักรี 13:12:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อไหร่ทหารไทย จะนำเงินที่จัดซื้ออาวุธ มาทำการวิจัยพัฒนา โดยให้ มหาวิทยาลัยต่างๆร่วมกันวิจัยล่ะครับ จากคุณ : ต่อ (วิหคไฟ) - [ วันจักรี 15:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คห.16 เป็นความคิดที่ดีนะครับ แต่ต้องทุ่มงบประมาณมาอีกเยอะเลย ซึ่งคิดว่า ครม. จะไม่อนุมัติ และประชาชนจะไม่พอใจครับ จากคุณ : zedth - [ วันจักรี 19:58:50 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนนี้จีนกำลังอยู่ในช่วง C&D เหมือนยี่ปุ่งสมัยก่อนครับชำนาญแล้วค่อยเปลี่ยนเป็น R&D ในภายหลัง อยากพัฒนาเร็วๆ ก็ต้องทำแบบนี้แหละ 66666 จากคุณ : monjangja - [ วันจักรี 21:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ยุคบิ๊กจิ๋วที่ซื้อของจีนแดงห่วยที่ชัดเจนคือ ลูกปืนครกจีนแดงครับ ทหารฝึกยิงแล้วระเบิดคาลำกล้อง ที่พี่จิ๋วไปว่าเค้าเมาแล้วยิงอะไรทำนองนั้น ในวิกิฯพูดถึงสงครามสั่งสอนญวณครั้งก่อนว่าทหารจีนบางส่วนก็ตายเพราะอาวุธตัวเองไม่ได้มาตรฐานน่ะคับ จากคุณ : x - [ วันจักรี 22:50:21 A:210.246.64.12 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แล้วตอนปรับปรุงเรือนั้น อุปกรณ์ เครื่องมือ ความรู้ ใช้ในประเทศไทยหรือเปล่าครับผม   อยากให้ไทยพัฒนาด้วยตัวเองบ้าง จากคุณ : คาถาป้องกันแห้ว - [ 7 เม.ย. 50 00:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อาวุธจีนสมัยก่อนกับสมัยนี้ต่างกันเยอะครับ สมัยก่อน c มาแบบด้านๆ เลย ยังไม่มีความรู้หรือมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีเลยคิดเองทำเอง ผลที่ได้ก็เลยออกมาห่วย แต่สมัยนี้ จีนพัฒนาด้านวิศวกรรมต่างๆ เยอะ มีทั้งส่งคนไปเรียนโดยเฉพาะ หลอกให้ประเทศอื่นมาลงทุนแล้วแฮปเทคโนโลยีก็มาก ฯ จะเห็นได้ว่า อาวุธทุกอย่างของจีนตอนนี้จะไม่เป็นไปตามสเต็ปเหมือนประเทศอื่นๆ แต่จะก้าวกระโดดจากของโบราณตกยุคกลายเป็นของที่อยู่ในยุคปัจจุบันในเวลาไม่กี่ปีเองครับ ส่วนของไทยผลประโยชน์ในการสั่งซื้อแต่ละครั้งมานเยอะ ไม่ต้องไปหวังทำเองใช้เองหรอกครับ ทุกอย่างทำได้หมด ถูกกว่าไม่ต่ำกว่าครึ่ง แต่ก็ได้แค่วิจัยเท่านั้นเอง พวกของเล็กๆ น้อยๆ จะมีการสั่งทำ ของหย่ายๆ เงินเยอะๆ ซื้อเหมือนเดิม 6666666 จากคุณ : monjangja - [ 7 เม.ย. 50 10:32:27 ]