 |
ความคิดเห็นที่ 7 |
|
จากประสบการณ์จริง ปลูกผมที่รพ.ยั__
ผมบางจากกรรมพันธุ์ เริ่มบางตั้งแต่อายุ25++ บางจนเห็นหนังหัว
ไปรักษามาแล้วทุกที่ ตั้งแต่คลีนิกทั่วไปจนถึงคลีนิกดังตามห้าง
เฉพาะคลีนิกชื่อดังตามห้าง(สเวน___) หมดเงินไปเกือบ3แสน ได้ยาขวดเล็กขวดน้อยมาเต็มบ้าน ก็ยังไม่หาย มีแต่จะบางลงเรื่อยๆ ตอนนี้สะสมขวดไว้เต็มเลย เพราะขวดเล็กๆน่ารักดี
ไปคลีนิกทั่วๆไป ได้ไมน้อกซิดิลมา กินจนขนขึ้นเป็นลูกลิง แต่ที่หัวไม่ยักกะขึ้น แถมXเสื่อมอีก เหอๆ
เซ็ง เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา
สุดท้ายไปส่งแฟนยิงเลเซอร์ที่โรงบาล ไปเจอโฆษณาปลูกผมในลิฟท์ เลยลองไปปรึกษาหมอ
หมอบอกว่าบางขนาดนี้ต้องปลูกซัก1,200กราฟ กราฟละ80บาท ไม่รวมค่ายา
บวกลบคูณหารดูแล้ว ถูกกว่าไปคลีนิกตามห้างเยอะเลย แถมเห็นทันใจ
เลยจองคิวตอนนั้นเลย
ตอนนั้นไม่ได้เปรียบเทียบราคาหรือฝีมือหมอที่นี่กับที่อื่นเลย
มารู้ทีหลังว่าที่อื่นถูกกว่านี้เยอะเหมือนกัน บางที่กราฟละ50บาทเอง คิดว่าที่อื่นฝีมือคงไม่ต่างกันเพราะวิธีทำง่ายๆไม่ซับซ้อน
ก่อนทำหมอก็ให้เปลี่ยนชุด ฉีดยามึน ตอนทำไม่สลบไม่หลับแต่จะเคลิ้มๆเบลอๆ
รู้สึกว่าหมอเอามีดมากรีดหนังที่ท้ายทอย แล้วก็เย็บ รู้สึกตึงนิดๆ
แล้วพยาบายก็ช่วยกันหั่นหนังหัวเป็นชิ้นเล็กๆ ยังแอบมองอยู่ หั่นกันไปเม้าท์กันไปเป็นที่หนุกหนาน
แล้วหมอก็เอาหนังที่หั่นมาปักๆๆๆๆๆตามหนังหัว ไม่เจ็บแต่จะตึงๆแปล้บๆ
ปักๆๆๆไปเรื่อยๆเป็นอันเสร็จ
หลังจากนั้นหมอก็จะเอาผ้าก๊อซมาพันไว้รอบหัว แล้วให้หมวกสีน้ำเงินมาใบนึง ให้ใส่กลับบ้าน
หมอจะให้ยามาด้วย หมอบอกว่าต้องกินไปตลอดเพื่อป้องกันไม่ให้ผมร่วงเพิ่ม ไม่งั้นผมที่ปลูกไปอาจจะร่วงได้อีก
หลังทำช่วงแรกๆ หมอจะนัดให้มาสระผมที่รพ. ห้ามสระเอง ก็ทรมานพอสมควร มันจะคันแผล แต่เกาไม่ได้ ถึงเกาก็ไม่รู้สึก เพราะหนังหัวชาไปหมด
แผลตรงท้ายทอยที่เย็บไว้ก็จะตึงๆนอนแล้วแผลจะรั้งๆ ตอนนอนทรมานมาก
ช่วงแรกๆที่ทำเวลาจะออกไปไหนต้องใส่หมวก เพราะจะเห็นรอยปลูกชัดมาก เป็นตอๆช้ำเลือดช้ำหนอง ต้องให้แฟนล้างแผลกับพันผ้าก๊อซให้ทุกวัน
เอาตอนจบเลยละกัน
ตอนนี้ผมหนาขึ้นกว่าเดิมเยอะ แต่ไม่ถึงกับหนามาก แต่ก็มองไม่เห็นหนังหัวแล้ว หมอบอกว่าถ้าอยากให้หนากว่านี้ต้องมาปลูกเพิ่มอีก ก็จะหนาขึ้นอีกเท่าตัว แต่คงพอแค่นี้
ส่วนตัวคิดว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแสนนึงนะ
| จากคุณ |
:
แฟน--------> (แม็ก-ท่าพระ)  
|
| เขียนเมื่อ |
:
25 ต.ค. 52 01:08:14
|
|
|
|
|
