 |
กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส Price Movement ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,701.80 USDต่อออนซ์เพิ่มขึ้น 8.00 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวในกรอบ 1,687.10 - 1,704.80 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดบวกได้จากแรงซื้อคืน หลังจากราคาปรับลดลงมากเมื่อวันก่อน ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม ตัวเลขเศรษฐกิจในยูโรโซนยังไม่ดีขึ้น GDP ไตรมาสที่ 3 ของยูโรโซน หดตัวลง 0.1%QoQ ตามคาด อัตราการว่างงานของกรีซเพิ่มขึ้นเป็น 26.0% จาก 25.3% แต่ยอดคำสั่งซื้อสินค้าโรงงานของเยอรมันเพิ่มขึ้นเกินคาดที่ 3.9% ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐดีขึ้นโดยมีจำนวนลดลงเหลือ 370,000 ราย ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมา ผลักดันให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น แต่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,701 USDต่อออนซ์ ตลาดจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐที่จะประกาศในคืนนี้ และการประชุม FOMC ครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 11 12 ธ.ค. ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมแทนมาตรการ Operation Twist ที่จะสิ้นสุดลงในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่สนับสนุนราคาทองคำ คาดว่าวันนี้ทองคำมีแนวต้านบริเวณ 1,708/1,720/1,730 แนวรับบริเวณ 1,685/ 1,670 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน และหาจังหวะปิดสถานะทำกำไรก่อนช่วงวันหยุดยาว นักลงทุนระยะกลาง ยาว รออ่นตัวบริเวณแนวรับสะสม Long เพิ่ม ถ้าไม่หลุด 1,670
Spot Gold Technical Analysis ภาพกราฟทางเทคนิคราคากำลัง Rebound ขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,708/1,720/1,730 หากยังยืนไม่ได้ที่บริเวณ 1,720/1,725 มีโอกาสอ่อนตัวลงได้อีก แต่ถ้าราคาปิดยืนเหนือ 1,725 ได้จะส่งสัญญาณ bullish คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,685 / 1,670 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,685 1,720 และหาจังหวะปิดสถานะทำกำไรก่อนวันหยุดยาว ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ยาว รออ่อนตัวบริเวณแนวรับสะสม Long เพิ่มถ้าราคาไม่หลุด 1,670
Key Point in Precious Market - ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น ( - ) ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ( - ) ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อลดลง ( - ) ความต้องการทองคำจากธนาคารกลางประเทศต่างๆเพิ่มขึ้น ความต้องการของกองทุน ETF ทองคำเพิ่มขึ้น ( + ) เยอรมันเปิดโอกาสให้กรีซซื้อคืนหนี้ได้ในมูลค่าที่ลดลง ( + ) ECB คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม ( + )
- ประเด็นที่ต้องติดตาม การแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ การแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐ การชุมนุมประท้วงในอียิปต์ การชุมนุมประท้วงในซีเรีย การประชุม FOMC ของสหรัฐในวันที่ 11 12 ธ.ค. การประชุม EU Summit ในวันที่ 13 -14 ธ.ค.
- การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.
- SPDR ถือทองจำนวน 1,351.54 ตัน Spot Silver ราคาโลหะเงินปิดที่ 33.11 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 32.60 - 33.33 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ซื้อ 39.13 ตัน ถือโลหะเงินจำนวน 9,829.15ตัน คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 32.6/32.4 แนวต้านบริเวณ 33.3/33.5 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน
กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส - ทองปิดบวกหลังร่วงติดต่อกัน 2 วัน - ดอลลาร์แข็งค่าก่อนรายงานตัวเลขจ้างงานสหรัฐคืนนี้ - ตาดอนุพันธ์ปิดวันจันทร์ส่วนออนไลน์เปิดตามปกติ - ราคาทองคำถูกกดดันจากรายงานข่าวการปรับลดการประมาณการแนวโน้มราคาทองในอนาคตจากบริษัทโกลด์ แมน แซคส์ ซึ่งประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้ระดับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม จนทำให้ความน่าสนใจลงทุนในทองคำในอนาคตเริ่มมีน้อยลง จึงมีการปรับลดเป้าหมายแนวโน้มราคาทองคำในอนาคตลง อย่างไรก็ตามด้วยราคาทองที่ปรับตัวลงติดต่อกันหลายวัน จึงทำให้แรงขายมีออกมาไม่มาก และราคายังคงเคลื่อนไหวทรงตัวที่บริเวณ 1,680-1,690 ดอลลาร์
- ตลาดรอติดตามการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนพฤศจิกายนในช่วงค่ำวันนี้ โดยมีการประเมินว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 90,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน หลังจากเพิ่มขึ้น 171,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม ส่วนระดับอัตราการว่างงานคาดว่าจะทรงตัวที่ 7.9% ต่อเนื่องจากเดือนตุลาคม หากรายงานออกมาแย่กว่าที่ตลาดประเมิน นักลงทุนอาจประเมินว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า อาจมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการชะลอตัวของเศรษฐกิจหลังจากปัญหาหน้าผาทางการคลัง ยังไม่สามารถหาข้อยุติลงได้
- มาตรการ Operation Twist ซึ่งเป็นการซื้อพันธบัตรระยะยาวในปริมาณเท่ากับการขายพันธบัตรระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐกำลังจะหมดอายุลงในช่วงปลายปี นักลงทุนจึงประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจมีมาตรการป้องกันภาวะตึงตัวในตลาดการเงิน ด้วยการประกาศเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจสหรัฐต่อไปในปีหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำในระยะยาว
- มีแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้ามา โดยวานนี้ราคาทองดีดตัวขึ้นพร้อมกับการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ภาพเทคนิคของราคาทองจึงยังต้องระวังแรงขายที่อาจมีกลับออกมาอีก โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรอยู่ที่บริเวณ 1,680 และ 1,670 ดอลลาร์ และหากสามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ คาดว่าราคาทองจะปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,715-1,720 ดอลลาร์ ต่อไป ส่วนราคาโลหะเงินมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากราคาปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 32.50 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มที่ราคาอาจจะดีดตัวขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 33.30-33.50 และ 34.0 ดอลลาร์ ตามลำดับ
โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.55 Close chg. Support Resistance 24,770 -220 24,700/24,600 24,850/25,000 ราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับสำหรับเก็งกำไรที่บริเวณ 1,680-1,685 ดอลลาร์ และเริ่มดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา หากราคาทองยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,700-1,705 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ควรปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยง แล้วรอเปิดสถานะใหม่ในช่วงที่ราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,680-1,685 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,670 ดอลลาร์ ตลาดอนุพันธ์ของไทยจะปิดทำการในวันจันทร์ ส่วนการซื้อขายทองแท่งของฮั่วเซ่งเฮงยังคงเปิดทำการตามปกติ
ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.55 Close chg. Support Resistance 1,006 -21 1,000/980/975 1,010/1,015-1,020 ราคาโลหะเงินปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 32.50 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวที่แนวต้านบริเวณ 33.0-33.20 ดอลลาร์ หากราคายังไม่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ ควรปิดสถานะซื้อเพื่อลดความเสี่ยง แล้วรอเปิดสถานะใหม่ช่วงที่ราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 32.50 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 32.30-32.40 ดอลลาร์
จากคุณ |
:
ฮะ ว่าไงนะ
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ธ.ค. 55 10:03:56
|
|
|
|
 |