Pulse
คลิกผวา
Official website (US)
Official website (Thai)
more info. from IMDB
แนว : สยองขวัญ / ลึกลับ / ระทึกขวัญ
ความยาว : 90 นาที
กำหนดฉาย : 7 กันยายน 2549

คุณเคยจินตนาการหรือไม่ว่า เทคโนโลยีไร้สายที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ได้เชื่อมเราสู่อีกโลกหนึ่ง? และมีใครเคยคิดไหมว่า หากโลกที่ว่านั่น ใช้เทคโนโลยีเป็นประตูบุกรุกเข้าสู่โลกของเรา อะไรจะเกิดขึ้น? ทีนี้ลองนึกเล่นๆ ถึงวันที่คุณเชื่อมการติดต่อ แล้วไม่สามารถปิดมันได้ วันที่คุณเปิดโทรศัพท์มือถือ หรือล็อกอินเข้าอีเมลล์ แล้วพวกมันก็เข้ามา คุณติดไวรัส และพวกมันจะเอาสิ่งหนึ่งไปจากคุณ สิ่งที่มันไม่มี นั่นก็คือ ชีวิต!

Pulse เล่าเรื่องราวของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ที่เพื่อนแฮกเกอร์เผลอเจาะเข้าไปในเว็บไซต์ประหลาด และเปิดประตูให้ปีศาจร้ายเข้ามาสู่โลกมนุษย์ ยิ่งมีคนคลิกเข้าไปดูภาพสยองมากเท่าไหร่ ปีศาจก็ยิ่งครอบงำชีวิตพวกเขามากเท่านั้น วัยรุ่นกลุ่มนี้จึงต้องหาทางหยุดมัน ...ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป


หลายปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์ญี่ปุ่นหลายเรื่อง ดึงดูดความสนใจจากนักดูหนังชาวอเมริกัน ปี 2001 ภาพยนตร์ฮอลลีวูดสุดฮิตเรื่อง The Ring และภาคต่อ The Ring Two ที่เล่าเรื่องราวของนักข่าว ผู้สืบหาความจริงเกี่ยวกับวิดีโอเทปลึกลับ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสาเหตุการตายของทุกคนที่เปิดดูมัน ก็สร้างจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Ringu ส่วนภาพยนตร์ที่ดังมากในปี 2004 อย่าง The Grudge ก็สร้างจาก Ju-on โดยจะมีภาคต่อ The Grudge 2 ตามมาเร็วๆ นี้

ผู้อำนวยการสร้าง ไมค์ ลีไฮ และ โจเอล ซวสซอน ต่างมั่นใจว่า Pulse จะเป็นภาพยนตร์รีเมคอีกเรื่องหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับเรื่องก่อนๆ เป้าหมายของหนังสยองขวัญเอเชีย คือทำให้คนดู "ขนหัวลุก" มากกว่า "ตกใจ" ซึ่งทำให้ผู้อำนวยการสร้างชาวอเมริกันสนใจ

Pulse สร้างจากภาพยนตร์สยองขวัญญี่ปุ่นเรื่อง Kairo (ออกฉายในปี 2001 ชื่อไทยว่า ผีอินเตอร์เน็ต) ซึ่งกำกับและเขียนบทโดย คิโยชิ คุโรซาว่า กับเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่น ที่สืบหาความจริงเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ทเว็บแคม ที่เปิดโอกาสให้คอเน็ตคลิกเข้าไปสื่อสารกับคนตาย

Pulse พูดถึงอันตรายที่แฝงอยู่ในเทคโนโลยีดิจิตอลไร้สาย ซึ่งกลายเป็นไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน เช่นเดียวกับ Kairo ใน Pulse นักศึกษามหาวิทยาลัยโอไฮโอกลุ่มหนึ่ง ได้ค้นพบฐานคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย ที่ไม่เพียงเชื่อมพวกเขาสู่อินเตอร์เน็ท แต่ยังดึงให้พวกเขาจมลงสู่ฝันร้ายไฮเทค ที่ลีไฮเรียกว่า “ไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิดร้ายแรง”

ด้วยคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ ประกอบกับบทหนังสุดหลอนที่เขียนโดย สตีเฟ่น ซัสโก (ผู้เขียนบท The Grudge และ The Grudge 2) ทีมสร้างจึงสามารถดึงเจ้าพ่อวงการหนังอดีตผู้บริหาร Miramax อย่างพี่น้อง บ๊อบ และ ฮาร์วี่ย์ ไวน์สไตน์ ให้เข้ามาร่วมลงทุนและจัดจำหน่ายหนัง ในนามบริษัท The Weinstein Company ซึ่งการที่ทั้งคู่เคยอำนวยการสร้างหนังสยองขวัญ ระดับบล็อกบัสเตอร์อย่าง Scream และ Scary Movie ทุกภาคทำให้นักแสดงอยากทำงานร่วมกับพวกเขา

หลังจากได้ผู้อำนวยการสร้างบริหารแล้ว ลีไฮ และ ซวสซอน ก็เริ่มหาตัวผู้กำกับ ซึ่งในที่สุดก็มาลงตัวที่ จิม ซอนเซอโร ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาแถวหน้าของฮอลลีวูด ส่วนตัวซอนเซอโรเองนั้น ตกปากรับคำมากำกับก็เพราะสนใจธีมหนัง โดยเฉพาะไอเดียที่ว่า เทคโนโลยีก่อให้เกิดความโดดเดี่ยว มากกว่าการรวมตัวของกลุ่มคน เขามองว่า Pulse คือนิทานสอนใจเรื่องหนึ่ง นอกจากนี้ ซอนเซอโรยังประทับใจหนังต้นฉบับด้วย

หลังจากได้ตัวผู้กำกับ ก็ถึงเวลาหาตัวนักแสดง ทีมงานได้รวบรวมกลุ่มนักแสดงรุ่นใหม่ ที่นำทีมโดย คริสเต็น เบลล์ นักแสดงสาวจากซีรี่ย์ยอดฮิตของ UPN เรื่อง Veronica Mars และภาพยนตร์เรื่อง Spartan บทบาทที่เบลล์ได้รับในเรื่องนี้คือ นักศึกษาเอกจิตวิทยาชื่อ แมตตี้ ที่ต้องสืบหาความจริง เกี่ยวกับอีเมลล์ชวนผวาที่ส่งมาจากโลกคนตาย, เอียน โซเมอร์ฮาลเดอร์ ผู้รับบท บูนี่ คาร์ลิล ในซีรี่ย์ยอดฮิตของ ABC เรื่อง Lost คือผู้เข้ามารับบท เด็กซเตอร์ หนุ่มบ้าคอมฯ ที่ตอนหลังเข้ามาช่วยแมตตี้สืบหาความจริง, คริสติน่า มิลเลียน นักร้องสาวดาวรุ่งและนักแสดงจาก Be Cool, Torque, Man of the House, American Pie และ Love Don’t Cost a Thing คือผู้ที่เข้ามารับบท อิซาเบล เพื่อนรักของแมตตี้, โจนาธาน ทักเกอร์ นักแสดงจาก Criminal, The Virgin Suicides และ Hostage คือผู้ที่เข้ามารับบท จอช แฮคเกอร์จิตหดหู่ ที่สร้างปัญหาไว้ให้คนอื่นแก้

ส่วนนักแสดงที่เข้ามาสร้างเสียงหัวเราะ ในสถานการณ์สุดเครียดนี้คือ ริค กอนซาเลซ จาก Roll Bounce, Coach Carter, Old School และ War of the Worlds ซึ่งมาคราวนี้เขารับบทเป็น สโตน นักศึกษาอีกคนหนึ่งในกลุ่ม, แซม ลีไวน์ อดีตนักแสดงจากซีรี่ย์ฮิต Freaks and Geeks คือผู้ที่เข้ามารับบท ทิม